เคทีซี ปี’65 ปรับแผนใหญ่ พอร์ตสินเชื่อหมื่นล.-ลงทุน New S Curve กำไรนิวไฮ

อื่นๆ

“เคทีซี” ฉายภาพใหญ่ปี’65 ซีอีโอ “ระเฑียร” เชื่อมั่นกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง จากปี’64 คาดมีกำไรกว่า 6,000 ล้านบาท ปรับแผนใหญ่ไม่อนุรักษ์นิยม ปั้น 3 ธุรกิจหลัก ผุดลอยัลตี้แพลตฟอร์ม “MAAI BY KTC” สร้าง New S Curve รุกขยายสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” สิ้นปีนี้แตะ 11,500 ล้านบาท ปล่อยกู้ผ่านสาขากรุงไทย ชี้ธุรกิจบัตรเครดิตปี’65 เป็นปีทอง มาร์เก็ตแชร์สูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี จากรายใหญ่หนี ลุยชิงเค้กลูกค้าระดับ “กลาง-บน” ช่วง มี.ค.จ่อเปิดตัวบัตร Co-brand

เคทีซี ปี’65 กำไรนิวไฮ-ปรับแผนครั้งใหญ่
วันที่ 12 มกราคม 2564 นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ในปี 2564 นับเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยมีความผันผวนแต่คงไม่ผันผวนเท่าปี 2563 โดยเราคาดว่าปีที่ผ่านมาทุกอย่างจะดีขึ้น โดยไม่คาดว่าจะเกิดการระบาดโควิดระลอก 3 และระลอก 4 แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เห็นว่าชีวิตมีความไม่แน่นอน และต่อไปไม่สามารถที่จะประเมินอะไรได้ล่วงหน้า จึงเป็นที่มาให้เรามานั่งทบทวนแผนธุรกิจใหม่ว่าสิ่งที่เราวางแผนไว้ในระยะยาวอาจจะไม่ได้ผล

สำหรับปี 2564 เคทีซียังสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดีมาก ภายใต้ภาวะความผันผวนที่เราเห็น โดยมีความเป็นไปได้ที่จะทำกำไรได้มากกว่า 6,000 ล้านบาท และทํานายเบอร์โทรศัพท์ แม่นที่สุดในโลกคาดการณ์ว่ากำไรปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ได้ต่อเนื่อง แต่คงเป็นลักษณะไม่โตร้อนแรงเหมือนปีก่อน ๆ เพราะส่วนหนึ่งต้องนำเงินไปลงทุนขยายแพลตฟอร์มใหม่ และขยายฐานลูกค้า และเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เพื่อสร้างการเติบโตก้าวกระโดด แต่ยืนยันว่าบริษัทยังจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้นตามกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นแน่นอน

 

“10 ปีที่เราเห็นเคทีซีภายใต้การดูแลของผม เราทำมาอย่างอนุรักษนิยม (Conservative) เราค่อย ๆ เดินทีละก้าว แต่ตั้งแต่ปี’65 จะเป็นปีที่แตกต่างจากทุกปีที่เราเคยทำมา” นายระเฑียร กล่าว

ปั้น 3 ธุรกิจ ดันสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” เหยียบดวงจันทร์
นายระเฑียร กล่าวต่อว่า โดย 3 ธุรกิจหลักสำคัญที่สุดที่เรากำลังทำและจะเห็นการมุ่งไปของเคทีซีตั้งแต่ปีนี้คือ 1.สินเชื่อจำนำทะเบียน “เคทีซี พี่เบิ้ม” จากเดิมแผนกลยุทธ์ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท แต่ล่าสุดได้ปรับเป้าใหม่เป็น 11,500 ล้านบาท เพื่อให้เราโตก้าวกระโดด ทั้งนี้ตัวเลขที่เราคาดการณ์ไว้ไม่ใช่เราจะทำได้เพราะปรับเป้า แต่เราเตรียมแผนรองรับการโตไว้แล้ว ซึ่งยอดปล่อยสินเชื่อทั้งบริษัทยังไม่เคยมีปีไหนที่เราทำได้ถึงหมื่นล้านบาท แต่ปีนี้เฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน “เคทีซี พี่เบิ้ม” จะทำได้

ปล่อยสินเชื่อผ่านสาขากรุงไทย
ด้านนางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” กล่าวว่า ปีนี้แผนธุรกิจสินเชื่อจะเป็นการเติบโตและขยายพอร์ต โดยจะพา “พี่เบิ้ม” ไปถึงดวงจันทร์ สเกลแบบการปล่อยจรวดขึ้นสู่ดวงจันทร์ (Moon Shot) เพื่อเป้าหมายใหญ่กับยอดปล่อยสินเชื่อที่ 11,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าที่ท้าทายมาก ๆ จากเดิม 2,200 ล้านบาทก็ถือว่าท้าทายมากแล้ว แต่หลังจากได้พูดคุยกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสในการเติบโตและมีศักยภาพมากในการแข่งขันในตลาด ทางธนาคารกรุงไทยจึงได้ปรับเป้ายอดปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ให้ใหม่

 

โดยธนาคารกรุงไทยจะสนับสนุนสาขาในการปล่อยสินเชื่อกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ และสาขากรุงไทยลีสซิ่งอีก 11 สาขา ซึ่งทำให้เราเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อโดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดที่เป็นฐานลูกค้าหลักที่จะขยายพอร์ตได้อย่างรวดเร็ว

และในเฟสถัดไปเราจะพัฒนาขยายช่องทางอื่น ๆ ของธนาคารกรุงไทยด้วย เช่น โมบายแบงกิ้ง krungthai NEXT และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของธนาคารกรุงไทย ซึ่งตั้งแต่ปีนี้เราจะเข้าไปในอีโคซิสเต็มตรงนั้นด้วย

บุกธุรกิจจำนำทะเบียน-เช่าซื้อ
โดยปีนี้ธุรกิจสินเชื่อที่เรามุ่งเน้นการเติบโตคือ ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน ซึ่งเป็นโปรดักต์ที่เรามีจุดแข็งแรงและแข่งขันในตลาดได้ โดยขยายพอร์ตประมาณ 80% ของยอดสินเชื่อใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากธุรกิจเช่าซื้อผ่านบริษัทกรุงไทยลีสซิ่งที่เพิ่งได้ใบอนุญาตมาจากการเข้าไปลงทุนถือหุ้น 75.05% ซึ่งธุรกิจตรงนี้จะค่อย ๆ เติบโต

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ เราจะมุ่งเน้นจุดแข็งหลักเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดคือ 1.วงเงินใหญ่ ปรับเป็น 1 ล้านบาทต่อราย จากเดิมให้สูงสุด 7 แสนบาทต่อราย 2.การอนุมัติ มีบริการพี่เบิ้ม เดลิเวอรี่ โดยสามารถเข้าไปรับสมัครและอนุมัติลูกค้าได้ถึงบ้านและสถานที่ต่าง ๆ สะดวกแบบไร้กระดาษ (Paper Less) ใช้เวลาอนุมัติภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้อนุมัติผ่านลูกค้าได้รับเงินทันที และ 3.เปิดโอกาสให้กับทุกอาชีพ มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อ

ปีทองบัตรเครดิต ทำมาร์เก็ตแชร์สูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี
นายระเฑียร กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจต่อมาคือ 2.ธุรกิจบัตรเครดิต โดยเชื่อว่าปี’65 จะเป็นปีทองแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเกิดโอมิครอนหรือมีโควิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกก็ตาม เรามองว่านั้นคือปัจจัยภายนอกที่จะต้องเจอ แต่เราเห็นโอกาส เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้เล่นรายใหญ่ของประเทศ

โดยมาร์เก็ตแชร์ของธุรกิจบัตรเครดิตในปีนี้นอกจากจะทำบันทึกสูงสุดใหม่แล้ว (Record High) จะโตอย่างที่ไม่เคยโตมาก่อนในรอบ 10 ปี

รายใหญ่หนีลุยชิงเค้กลูกค้า “กลาง-บน” มี.ค.เปิดตัวบัตร Co-brand
ด้านนางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Spending) อยู่ที่ 220,000 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจะเพิ่มสมาชิกใหม่บัตรเครดิตไม่ต่ำกว่า 250,000 ราย จากสภาวะการควบคุมโควิดและภาวะเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งเห็นในช่วงไตรมาส 3/64 และไตรมาส 4/64 สัญญาณดีขึ้นซึ่งคาดว่าน่าจะดีต่อเนื่องในปีนี้ได้ โดยเชื่อว่ากำลังซื้อและความมั่นใจของลูกค้าจะกลับมา

 

ดังนั้นโอกาสเติบโตของจำนวนบัตรและยอดใช้จ่ายผ่านบัตรมีแนวโน้มไปในทางที่ดี จากปัจจุบันเรามีลูกค้าอยู่ประมาณ 2 ล้านราย จำนวนบัตรกว่า 2.5 ล้านบัตร ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถขยายมาร์เก็ตแชร์ได้เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการจากไปของผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในประเทศไทย ซึ่งย่อมหมายถึงโอกาสสำหรับเคทีซี ทำให้กลยุทธ์ในปีนี้เราจะจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและระดับบนมากขึ้น

“ที่ผ่านมาเคทีซีจะมีความถนัดในการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าฐานรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน แต่ปีนี้จะโฟกัสกลุ่มบนมากขึ้น โดยจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่และปรับปรุงสิทธิพิเศษที่เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะ นอกจากนี้แผนการขยายฐานบัตร ประมาณเดือน มี.ค. 65 เราจะเปิดตัวบัตรเครดิตร่วม (Co-brand) เพิ่มเติม รับรองตื่นเต้นตรงใจกับลูกค้าในตลาด รวมไปถึงปีนี้จะเป็นปีที่เราให้ความสำคัญกับการเข้าใจลูกค้า โดยกำลังศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงสิทธิพิเศษของบัตรเคทีซีและมีความปลอดภัยในการใช้บัตร” นางพิทยา กล่าว

โดยการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เราเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มบน ซึ่งเราแข็งแรงมากด้วยเครือข่ายพันธมิตรร้านค้า ดังนั้นเราจะขยายไปยังร้านค้าพรีเมียมและไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยเรามีอาวุธสำคัญคือคะแนน KTC FOREVER เป็นคะแนนสะสมที่ไม่มีวันหมดอายุ แลกบนไม่มีเงื่อนไข แลกโดยไม่จำกัด และการผ่อนชำระรายเดือน 95% ของยอด สามารถผ่อนชำระ 0% ได้

ส่วนธุรกิจสินเชื่อบุคคล นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจสินเชื่อบุคคล กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเคทีซี พราว ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย จากสมาชิกปัจจุบันมีอยู่กว่า 7 แสนราย โดยมุ่งเน้นกลุ่มที่มีศักยภาพหรือลูกค้าที่มีรายได้ประจำและฐานรายได้สูงขึ้น ด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.93% ต่อเดือน และเพิ่มเวลาผ่อนให้นานถึง 60 งวด โดยปีนี้สามารถสมัครขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ได้ด้วยโมบายแอปลิเคชั่นในรูปแบบใบสมัครออนไลน์ผ่านระบบยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล (e-KYC) โดยคาดว่าปีนี้ยอดลูกหนี้จะเติบโต 7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

ผุดลอยัลตี้พอยต์ สร้าง New S Curve
นายระเฑียร กล่าวต่อว่า และธุรกิจตัวสุดท้ายที่จะสร้าง New S Curve และมีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืนคือ 3.แฟลตฟอร์ม MAAI BY KTC โดยปีนี้เราจะทำลอยัลตี้พอยต์ (MAAI POINT) เพื่อเชื่อมอีโคซิสเต็มกับโลกอนาคต โดยคะแนน MAAI POINT จะเติบโตมาเป็นคู่แข่งคะแนน KTC FOREVER และจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนพาร์ตเนอร์ของเราให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้และแข่งกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมของเขาได้

“เราจะเป็นผู้สนับสนุน (Supporter) และเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมอีโคซิสเต็มของเขาและอีโคซิสเต็มของเรา โดยเรามอง MAAI POINT จะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่จะเป็นแพลตฟอร์มหลัก (Core Paltform) ของโลกในอนาคต” นายระเฑียร กล่าว

ตั้งเป้าสมาชิก MAAI ที่ 1 ล้านราย
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การตลาดบัตรเครดิต ดูแลแฟลตฟอร์ม MAAI BY KTC กล่าวว่า ธุรกิจตัวนี้เป็นความหวังใหม่ของเคทีซี มีโซลูชั่นที่สำคัญคือ 1.ระบบบริหารจัดการสมาชิก 2.ระบบบริหารจัดการคะแนน ซึ่งไม่ว่าเป็นคะแนนของพันธมิตรเอง หรือจะใช้คะแนน MAAI POINT ในการทำลอยัลตี้โปรแกรมก็ทำได้เช่นกัน โดยคะแนน MAAI POINT สามารถใช้เป็นคะแนนกลางในการแลกเปลี่ยนกับคะแนนอื่นๆ ในกลุ่มพันธมิตรบนแฟลตฟอร์ม MAAI BY KTC ได้ด้วย

 

และ 3.ระบบบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ในรูปแบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์ (e-Coupon) แลกสินค้าได้ที่ร้านค้าพันธมิตรทั่วไปครอบคลุมทุกหมวดการใช้จ่าย อาทิ ร้านค้า, โรงภาพยนตร์, โรงพยาบาล เป็นต้น โดยจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 1/65

โดยวันที่ 17 ม.ค. 65 จะเปิดให้พนักงานเคทีซีทดลองใช้เริ่มต้นกับ 16 ร้านค้า โดยใส่คะแนนสะสมกว่า 300 ล้านคะแนน เพื่อเรียนรู้และปรับวิธี โดยตั้งเป้าสมาชิกในปีนี้อยู่ที่ 1 ล้านราย

อนาคตโครงสร้างรายได้ “เคทีซี พี่เบิ้ม” ใหญ่
นายระเฑียร กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับโครงสร้างรายได้ของเคทีซีต่อจากนี้ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” จะมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นเนื่องจากมีการโตที่สูง จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ในขณะที่สัดส่วนเกินกว่า 90% ยังมาจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่การเติบโตในระยะยาวจะเป็น MAAI BY KTC เพราะเป็นการสร้างอีโคซิสเต็ม ซึ่งการจะทำเงินยังไม่สามารถอธิบายแผนธุรกิจในตอนนี้ได้ แต่เป็นความฝันที่เรามอง ซึ่งจะเป็นการเชื่อมอีโคซิสเต็มแล้วทำให้เม็ดเงินเกิดขึ้น

อ้างอิง
https://www.prachachat.net