“ไวส์ โลจิสติกส์” เผยแนวโน้มโค้งสุดท้ายปี 64 ลุ้นทำรายได้นิวไฮต่อเนื่องไตรมาสที่ 8 ช่วงไฮซีซัน ปริมาณงานเพิ่มทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ มองค่าระวางยังอยู่ในระดับสูงถึงกลางปี 65 ขยายบริการขนส่งข้ามแดนเชื่อมต่อรถไฟลาว-จีน พร้อมเล็งเปิดคลังสินค้าใหม่ในประเทศรองรับความต้องการลูกค้า มั่นใจผลประกอบการปี 64 ทะลุเป้าหมายใหม่ 5,800 ล้านบาท
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/64 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้ทำนิวไฮเป็นไตรมาสที่ 8 จากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการขนส่งทางทะเล การขนส่งทางอากาศ ธุรกิจบริการด้านซัปพลายเชน และธุรกิจบริการขนส่งข้ามแดน นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าปัจจัยด้านค่าระวางเรือยังจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปถึงกลางปี 65
สำหรับบริการขนส่งข้ามแดนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากความต้องการขนส่งทดแทนบริการอื่นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มจำนวนตู้คอนเทนเนอร์เป็น 500 ตู้ คาดว่าจะสามารถเพิ่มเที่ยวการขนส่งได้มากขึ้นถึง 12,000 เที่ยวต่อปี นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายการบริการในส่วนการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less Truck Load Service : LTL) เพิ่มโอกาสรับงานที่หลากหลาย โดยตั้งเป้าการให้บริการดังกล่าวจำนวน 65 เที่ยวต่อเดือน อีกทั้งมีแผนขยายเส้นทางการให้บริการขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Services) ซึ่งเป็นการขนส่งทางรถจากมาเลเซียไปยังรถไฟประเทศลาว-จีน เพื่อเชื่อมเส้นทางโครงการ One Belt One Road จากจีนถึงตะวันออกกลางและทวีปยุโรปในอนาคต
ขณะที่บริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด (บริษัทย่อย) ผู้ให้บริการด้านซัปพลายเชนโซลูชันแบบครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ ได้มีการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ย่านบางนา โดยให้บริการในสินค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail) และ E-Commerce ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้ว 85% โดยตั้งเป้าการให้บริการครบถ้วนเต็มคลังสินค้าภายในสิ้นปี 64 และคาดว่าจะสร้างการรับรู้รายได้ให้บริษัทประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายในปี 65 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
“บริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างครบวงจร โดยการขยายโครงข่ายให้บริการโลจิสติกส์ครอบคลุม พร้อมการเพิ่มบริการที่หลากหลาย และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการขนส่งของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่าหากดำเนินการตามแผนจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ ณ สิ้นปี 64 มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 5,800 ล้านบาท” นายชูเดช กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทสามารถสร้างสถิติใหม่เป็นครั้งที่ 7 ที่มีรายได้รวม 2,284.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 916.39 ล้านบาท จำนวน 1,368.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 149.32% และมีกำไรสุทธิ 162.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.16 ล้านบาท จำนวน 106.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 188.75% และมีผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 5,278.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,606.41 ล้านบาท จำนวน 2,671.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 102.52% และมีกำไรสุทธิ 355.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 141.69 ล้านบาท จำนวน 213.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150.67%